American VS British English ความแตกต่างระหว่างภาษาอังกฤษแบบอเมริกาและแบบเมืองผู้ดี

American VS British English  ความแตกต่างระหว่างภาษาอังกฤษแบบอเมริกาและแบบเมืองผู้ดี
Last update 17 / 03 / 22by: Teacher Guru3.7K viewed

ภาษาอังกฤษที่ใช้กันทั่วโลก ซึ่งมีอยู่หลากหลายแบบหลากหลายสำเนียงขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่ แต่ที่คนไทยส่วนใหญ่รู้จักและคุ้นเคยกันดีก็จะเป็น British English และ American English ที่เป็นที่ยอมรับและใช้แพร่หลายมากที่สุด แน่นอนว่ามันย่อมต้องมีความแตกต่างกันอยู่แล้ว ความแตกต่างระหว่าง British English กับ American English มีหลายด้านดังนี้

 

ความแตกต่างระหว่าง British and American English

เรามาดูความแตกต่างของ British English เทียบกับ American English ว่าแตกต่างกันในด้านใดบ้าง แล้วเราจะสังเกตเห็นได้อย่างไรกัน ไปดูกันเลย!

 

 

1. ความแตกต่างทางด้านคำศัพท์ (Vocabulary)

เห็นได้ชัดเจน เช่น

British English (BrE) Amrican English (AmE) ความหมาย
flat apartment ห้องพัก
petrol gas น้ำมัน(รถ)
taxi cab รถแท๊กซี่
biscuit cookie ขนมปังกรอบ
sweet dessert ขนมหวาน
lift elevator ลิฟท์
rubber eraser ยางลบ
torch flashlight ไฟฉาย
film movie หนัง
trousers pants กางเกงขายาว
railway railroad ทางรถไฟ
condom rubber ถุงยางอนามัย
underpants shorts กางเกงขาสั้น
lorry truck รถบรรทุก
garden yard สวน

 

 

2. ความแตกต่างด้านการสะกดคำ (spelling)

คำศัพท์ที่เป็น British หรือ American English บางคำ ออกเสียงเหมือนกัน มีความหมายเหมือนกัน แต่สะกดต่างกัน   ตัวสะกดที่มักเจอบ่อยๆคือ

British English

American English

word

คำที่ลงท้ายด้วย tre

คำที่ลงท้ายด้วย ter

centre / center
theatre / theater

ลงท้ายด้วย ogue

ลงท้ายด้วย og

analogue / analog
catalogue / catalog

ลงท้ายด้วย our

ลงท้ายด้วย or

colour / color
labour / labor

ลงท้ายด้วย ise

ลงท้ายด้วย ize

analyse / analyze
realise / realize

 

คำอื่นๆที่สะกดไม่เหมือนกัน เช่น

British English American English
programme program
cheque check
doughnut donut
grey gray
jewellery jewelry

 

3. ความแตกต่างทางด้านไวยากรณ์ (grammar)

Collective noun หรือนามที่เป็นกลุ่ม ถ้าเป็น American English จะเป็นเอกพจน์เสมอ แต่ถ้าเป็น British English จะเป็นได้ทั้งเอกพจน์และพหูพจน์ ขึ้นอยู่กับความหมายที่ต้องการหมายถึง

3.1 การเขียนวันที่ แบบ American English จะเขียน เดือน / วัน / ปี แต่ถ้าเป็น British English จะเขียนเรียงแบบ The + วันที่ + of + เดือน + ปี

3.2 เหตุการณ์ที่เพิ่งจบไป American English จะใช้ past simple แต่ British English จะนิยมใช้ present perfect มากกว่า

3.3 กริยา 3 ช่อง บางคำใช้ต่างกัน เช่น

British English Amrican English
get / got / got get / got / gotten
smell / smelt / smelt smell / smelled / smelled
lean / leant / leant lean / leaned / leaned

 

3.4  เวลาเขียนตัวเลขแบบ British Englishจะมี and อยู่หน้าตัวเลขสุดท้ายที่มากกว่า 100 แต่ American Englishไม่มี and

-two thousand and seven. (British English)

-two thousand seven. (American English)

 

3.5 singular and plural nouns (คำนามเอกพจน์และคำนามพหูพจน์) มี คำศัพท์บางคำ ที่ใน British English จะถือว่าเป็น singular ส่วนใน Amican English จะถือว่าเป็น plural เช่น sport ( BrE) sports (AmE) กีฬา

- Boonruang was very keen on sport / sports, particularly shooting.
  บุญเรืองเก่งเรื่องกีฬา โดยเฉพาะยิงปืน

 

3.6 countable and uncountable nouns (คำนามนับได้และคำนามนับไม่ได้) มีคำศัพท์บางคำ ที่ใน British English เป็นทั้งcountable and uncountable nouns ส่วนใน Amican English เป็นเฉพาะ uncountable noun เช่น tea (ชา) หรือ coffee (กาแฟ)

- Would you like a cup of coffee? (กาแฟสักแก้วไหมคะ) (BrE และ AmE)

- Would you like a coffee? (BrE เท่านั้น)

- Two cups of coffee and a cup of tea, please. กาแฟ 2 ถ้วย ชา 1 ถ้วยครับ (BrE และ AmE)

- Two coffees and a tea, please. (BrE เท่านั้น)

 

3.7 river แม่น้ำ สำหรับ British English ชื่อแม่น้ำจะอยู่หลังคำว่า river แต่ Amican English ชื่อแม่น้ำจะอยู่หน้าคำว่า river

- the River chao phraya is in Thailand. (แม่น้ำเจ้าพระยาอยู่ที่ประเทศไทย) (BrE)

- the chao phraya River is in Thailand. (AmE)

 

 

 

 

4. ความแตกต่างทางด้านการออกเสียง (pronunciation)

4.1 คำศัพท์หลายคำที่มีตัวอักษร a

ถ้า British English ออกเสียง อา    แต่ถ้าเป็นAmerican English ออกเสียง แอ เช่น

 

Word British English Amrican English
ask อาสค์ แอสค์
fast ฟาสท์ แฟสท์
can’t ค้านท์ แค้นท์

*can ออกเสียง แคน ทั้ง British English และ American English

 

4.2 คำศัพท์ที่มี ue, ew

ถ้าเป็น British English จะออกเสียง อิวเช่น due   ดิว

ถ้าเป็น American English จะออกเสียง อู   due ดู

 

4.3 อักษร t ถ้าอยู่ระหว่างสระหรืออักษร l หรือ r

ถ้าเป็น British English จะออกเสียง ท         better เบ้ทเท่อะ

ถ้าเป็น American English จะออกเสียง ด     better เบ้ทเด่อะ

 

4.4 สียง r ที่อยู่ระหว่างตัวอักษรหรือท้ายคำ

ถ้าเป็น British English จะไม่ออกเสียง rpart   พาท

ถ้าเป็น American English จะออกเสียง rpart พารฺท

 

 

สาเหตุที่เราต้องรู้จักทั้งแบบ American English และ British English เพราะภาษาอังกฤษมีความหลากหลาย เราอาจจะได้ยินได้ฟังในหลายแบบเพื่อจะได้เข้าใจถึงความแตกต่างที่คนอื่นเขาพูดกัน

 

ที่มา: http://www.pasaangkit.com

American VS British English ความแตกต่างระหว่างภาษาอังกฤษแบบอเมริกาและแบบเมืองผู้ดีAmerican VS British EnglishAmerican EnglishBritish Englishความแตกต่างระหว่างภาษาอังกฤษภาษาอังกฤษแบบอเมริกาภาษาอังกฤษแบบเมืองผู้ดี
พูดคุย

พูดคุย

ร่วมให้กำลังใจหรือติชม